5 วิธีปลุกไฟ หลังสอบเสร็จ

5 วิธีจัดการความเครียดหลังสอบ ให้สอบอีกกี่ที..ก็ไม่มีดราม่า

5 วิธีจัดการความเครียดหลังสอบ ให้สอบอีกกี่ที..ก็ไม่มีดราม่า

มาถึงอีกแล้วนะ…ช่วงเทศกาลสอบของน้องๆ พี่กัปตันเชื่อว่า น้องๆ ของพี่คงใช้เวลาอ่านหนังสือ เตรียมตัวสอบอย่างหนัก ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อที่น้องจะได้เก็บคะแนนให้ปัง ยื่นเข้าคณะในมหาวิทยาลัยที่ฝันไว้ แบบตัวแม่ ตัวมัม ใช่ไหม?

แต่หนทางสู่ความฝันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป กว่าจะฝ่าฟันการสอบแต่ละครั้งไปได้ น้องๆคงแอบรู้สึกกดดันตัวเอง กังวล และรู้สึกเครียดอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเมื่อก้าวเท้าออกจากห้องสอบแล้ว ไปคุยกับเพื่อน คำตอบไม่ตรงกัน จนน้องคิดว่า “ตายแล้ว!! ฉันคงหมดหวัง กับคณะที่ฝันไปแล้วสินะ”

พี่กัปตัน ขอบอกว่า “หยุดก่อนลูก! สติ! เตือนแล้วนะ” น้องอย่าเพิ่งเครียดเกินเบอร์ไป ตั้งสติ เปิดตา เปิดใจ แล้วน้องจะเห็นทางออกของปัญหา จงคิดไว้เสนอว่า เราไม่ใช่โนบิตะ จะได้ขอให้โดเรม่อน พานั่ง Time Machine ย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ มาจัดการความเครียดกับพี่กัปตันด้วย 5 วิธีจัดการความเครียดหลังสอบ ให้สอบอีกกี่ที..ก็ไม่มีดราม่า ให้พร้อมกับสอบครั้งต่อไปกันเถอะ!

1) ควบคุมสติ มีความหวัง อย่าปล่อยให้อารมณ์มา Take Over

หลังออกจากห้องสอบ.. แหม! ต้องเม้าท์มอยกับเพื่อนสักหน่อย แต่แล้วคำตอบไม่ตรงกับเพื่อน คะแนนก็ได้น้อยกว่าที่หวังไว้อีก ก่อนอื่นน้องต้องบอกกับตัวเองก่อนว่า น้องทำเต็มที่ที่สุดแล้ว และจงมีความหวังอยู่เสมอ อย่าให้อารมณ์แรงกดดันมาทำร้ายความรู้สึกตัวเอง หากผิดหวังจงเปลี่ยน ให้เป็นแรงผลักดัน ให้พยายามทำใหม่ในอนาคตให้ดีขึ้น แล้วน้องจะรู้ว่า แท้จริงแล้ว ความผิดหวังเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าน้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เราทำไม่ได้ ผลลัพธ์ครั้งต่อไปจะออกมาดีกว่าเดิมแน่นอน

2) อย่าอินเกิน!! โนสนโนแคร์ เวลาเพื่อนอวดคะแนน

“คะแนนเต็ม 100 อย่างน้อยต้องได้ 99” ออกจากห้องสอบมา เพื่อนตัวดี ชอบมาสปอยคำตอบ บางคนก็บอกเราทำไม่ได้ แต่ได้ TOP วิชานั้น น้องจงมองข้ามเพื่อนจอมอวดจอมขิงเหล่านั้นไป หยุดเก็บเอาคำพูด หรือทัศนคติไม่ดีมาบั่นทอนจิตใจของน้อง พี่กัปตันเชื่อว่าน้องรู้ศักยภาพตัวเองดี เมื่อน้องทำเต็มที่แล้ว จงยอมรับผลจากสิ่งที่เราทำ และหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะมันจะเป็นการทำร้ายสุขภาพจิต และไม่ได้ช่วยเพิ่มแรงผลักดันในการพัฒนาศักยภาพของน้องขึ้นเลย

3) ทำกิจกรรมที่สบายใจ..หยุดจิตใจที่ว้าวุ่น

ถ้าจิตใจยังว้าวุ่นอยู่ อารมณ์แบบพยายามหยุดคิดก็ยังคิดวกไปวนมา อยากจะร้องไห้ พี่แนะนำให้ร้องออกมาเลยจะได้ระบายเอาความเครียดออกมา แต่ถ้าร้องแล้วยังเครียดอยู่ พี่กัปตันว่า น้องลองหากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่ว่าจะออกไปเที่ยวกับเพื่อน ร้องคาราโอเกะ เล่นกับน้องหมาน้องแมว หรือจะไปสายมู เข้าวัดทำบุญ ถ้าทำแล้วรู้สบายใจขึ้นก็ทำไปเลย จะได้เลิกคิด เลิกเครียด น้องๆ เคยได้ยินไหม? บางทีการจะทำอะไรให้สำเร็จได้ ไม่ได้มีเพียงความพยายามของเราเพียงอย่างเดียว บางครั้งก็ต้องใช้ที่พึ่งทางใจและโชคชะตาด้วย

4) วางแผนดี…มีชัยไปกว่าครึ่ง

ถ้าน้องสอบเสร็จแล้ว อย่ามัวแต่จมปลักกับคะแนนการสอบที่ผ่านมา มัวแต่ไปดูคะแนนคนอื่น ถามเพื่อนว่าได้คะแนนเท่าไหร่? ยิ่งจะทำให้น้องเครียดกว่าเดิม ถ้าน้องคะแนนน้อย แต่เพื่อนคะแนนมาก น้องก็จะโทษตัวเอง คิดซ้ำไปมา น้องจงจำไว้ว่า “อย่ามัวเสียเวลากับสิ่งที่เราทำพลาดไป ให้คิดถึงสิ่งที่เราทำได้ต่อจากนี้ดีกว่า” ดังนั้น เอามาเวลานั่งเครียด มานั่งคิดวางแผนการสอบครั้งต่อไป มองภาพให้ถึงการเตรียมตัวสอบ TGAT/TPAT และ A-LEVEL ศึกษาวิธีการ วางแผน และกำหนดเป้าหมาย เพื่อให้เราสามารถทำคะแนนได้ถึงเกณฑ์เพื่อเข้าคณะที่เราหวังไว้ดีกว่า

5) ปลุกความเป็น Fighter ในตัว

หากน้องพยายามเต็มที่แล้ว คะแนนที่น้องทำได้อาจจะไม่ถึงในคณะที่น้องฝันไว้ น้องอย่าพึ่งท้อใจ เพราะว่า คะแนนหรือการสอบ ยังไม่ใช่ที่สุดของชีวิตและอนาคต ถึงที่สุดแล้วยังมีมหาวิทยาลัยเอกชนดีๆ ที่ตอบโจทย์การเรียนและการทำงานให้อนาคตเราได้ หรือใครถนัดทางด้านสายอาชีพ มีความสนใจเฉพาะทาง อยากเป็น อยากทำอาชีพใหม่ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเข้ามหาวิทยาลัย ก็มีเยอะแยะให้น้องๆ เลือกไป ถ้าครั้งนี้ยังไม่ใช่วันของน้อง คิดเสียว่าได้ใช้เวลาค้นหาตัวเองในนแบบที่ตนเองอยากจะเป็นจริงๆ ครั้งหน้าที่น้องจะกลับมาสู้ ต้องสู้อย่างสุดพลัง สู้ไม่ถอย พี่เชื่อว่า ถ้าน้องอยากได้อยากเป็น น้องจะทำมันอย่างเต็มที่แน่นอน

ท้ายที่สุดนี้ พี่หวังว่าบทความนี้จะช่วยผ่อนคลายความเครียดหรือความผิดหวังของน้องๆ ได้ และสุดท้าย พี่กัปตันขอให้ทุกคนมีสติ มองหาเส้นทางใหม่ๆ ที่จะพาให้น้องไปถึงฝั่งฝันความสำเร็จของชีวิตตัวเองได้อย่างงดงามดัวยรักจากพี่กัปตัน