เทคนิคการเลือกคณะที่ใช่ เรียนไปไม่มีพลาด
การเลือกคณะเข้ามหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตน้อง ๆ ทุกคนเลย โดยเฉพาะ DEK69 ก็อาจจะกำลังเครียด หลายคนอาจมีปัญหาที่คิดไม่ออกว่าจะเลือกยังไงดี? เลือกตามเพื่อนดีมั้ย? หรือเอาแค่ที่น่าจะสอบเข้าได้ก็พอ วันนี้พี่มีเทคนิคการเลือกคณะ รวมทั้งข้อดีข้อเสียมาเล่าให้ฟัง
1. เลือกเรียนที่ชอบ
ข้อดี : การได้เรียนในสิ่งที่ชอบ จะทำให้เรามีความสุขและสนุกกับการเรียน และพอเราสนุกกับเรื่องนั้น เราจะอยากฝึกฝนและพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ทำให้เรากลายเป็นคนเก่งในด้านนั้นได้
ข้อเสีย : หลายคนคิดว่าชอบ แต่กลายเป็นว่าพอเข้าไปเรียนจริงๆ แล้ว สิ่งที่ชอบมีแค่นิดเดียว แต่ที่เหลือดันไม่ชอบเลยนี่สิ เพราะว่าคิดเพียงผิวเผินตอนที่เลือก และบางคนเรียนๆไปอาจไม่ถนัดในด้านที่ชอบก็ได้
2. เลือกเรียนที่ถนัด
ข้อดี : ทำในสิ่งที่เก่ง เราจะใช้เวลาเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนอื่น เก่งได้ง่ายกว่าคนอื่น ระหว่างเรียนอาจลงประกวดหรือแข่งขันคว้ารางวัลมาได้ บางคนก็โดนบริษัทจองตัวตั้งแต่เรียนไม่จบ และพอจบไปทำงานก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น อาจมีชื่อเสียง ทำให้มีโอกาสมากมายเข้ามา
ข้อเสีย : ถ้าเราไม่ได้ชอบมัน เราคงหาความสุขจากมันได้ยาก และถ้าทำๆไปแล้วไม่มีความสุข ก็อาจทำให้เราเบื่องานได้
3. เลือกเรียนตามคนอื่น
ข้อดี : ไม่ต้องปวดหัวตอนเลือกคณะ เพราะคนอื่นคิดแทนให้แล้ว และถ้าเข้าไปเรียนแล้วมีคนรู้จัก คนแนะนำ ก็จะช่วยให้มีที่ปรึกษาระหว่างเรียนที่เป็นคนใกล้ตัว
ข้อเสีย : ในเมื่อมันไม่ใช่ตัวเราจริงๆ และถ้าไม่ชอบด้วย ไม่เก่งด้วย จบไปหางานยากนะ หรือไม่ก็ต้องไปค้นหาตัวเองตอนเรียนจบไปแล้ว ว่าจะทำงานไรดี?
4. เลือกเรียนตามคนที่เค้าไม่รักเรา
ข้อดี : อย่าหลอกตัวเองเลย ไม่มีหรอกข้อดี
ข้อเสีย : จะเอาชีวิตไปฝากไว้กับคนที่เค้าไม่รักเราเหรอ? สู้เรียนในสิ่งที่เรารักและถนัด เอาให้เก่งไปเลย จบไปมีงานดีๆ ได้ทำงานที่เรารักและมีความสุข สักวันเดี๋ยวโอกาสดีๆ ก็เข้ามาเอง รวมถึงเรื่องความรักดีๆด้วย
การค้นหาคณะที่ใช่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะส่งผลต่ออนาคตของน้อง ๆ ควรเริ่มต้นจากการสำรวจตัวเองก่อน น้องๆ ลองถามตัวเองดูว่า ชอบทำอะไร? เรียนวิชาอะไรแล้วรู้สึกสนุก? ทำกิจกรรมอะไรแล้วรู้สึกมีความสุข? พี่เชื่อว่าถ้าน้องๆ เลือกคณะจากความชอบและความถนัดของตนเองเป็นหลัก จะทำให้มีความสุขกับการเรียนและประสบความสำเร็จในอาชีพในอนาคตอย่างแน่นอน
#เคมีจะไม่ยากถ้าพวกเราเปิดใจ